วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

รีวิวร้าน เบอร์เกอร์ Carl's Jr. Burger chain จาก US

ช่วงนี้ร้านเบอร์เกอร์ เปิดใหม่เยอะมากกก  ล่าสุดก็ Chain Restaurant จากอเมริกา Carl's Jr. โหมโฆษณาเยอะอยู่ ทั้งบน  BTS,  M2F etc. อีกแป๊บคงจะทยอยเปิดสาขา ตอนนี้มี 2 สาขาค่ะ ตรง สุขุมวิท 24 กับ พัทยา

วันนี้คุณเพื่อนชวนมากินค่ะ เธออยากลอง เราก็เลยฝ่ารถติดหลังเลิกงานจาก สาทร มาสุขุมวิท เพื่อกินเจ้าเบอร์เกอร์นี่ (ช่างพยายามกันจริง) ร้านตั้งอยู่ที่ 24 AVENUE ข้างๆ โรงแรมชูวิทย์ค่ะ ^^ บรรยากาศหน้าร้าน


เคาท์เตอร์ คล้ายๆ เบอร์เกอร์คิงนะ 


เบอร์เกอร์ ส่วนใหญ่้เป็นเนื้อค่ะ มีไก่ เบคอนเล็กน้อย แต่ไม่มีเบอร์เกอร์หมูนะคะ ราคาก็ 100 -200 บาทต้องชิ้นค่ะ แพงกว่า เบอร์เกอร์คิง นิดหน่อย เราสั่งเป็นชุด ชุดเล็กประมาณ 200 กว่าบาท เอาเมนูมาฝากค่ะ ดูเรียกน้ำย่อย 






มากัน สามคน เราสั่ง Western Bacon Cheeseburger ของเพื่อนอีก 2 คนเป็นไก่ Chicken Club กับ  BBQ Chicken สั่งอาหารเสร็จก็มากดน้ำตรงนี้ค่ะ บริการตัวเอง มีแบบ รีฟิลด้วยค่ะ มีน้ำอัดลม กับ ชามะนาว ชามะนาวเติมน้ำเชื่อม+ เลมอน เองตามสบาย เรากดโค้ก ใส่ เลมอนมาด้วย หร่อยๆ 




โค้กเลมอน ระหว่างรออาหาร เพื่อนเลือกชาเลมอน บอกว่าไม่อร่อยเท่าไหร่ แต่เราไม่ได้ชิมนะ ตอนไปคนไม่เยอะนะคะ ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เบอร์เกอร์ต้องรอพักนึงแต่ก็ไม่นานมากนะ 



 มาแล้วค่ะ พร้อม Onion Ring กับ Crisscut Fries 



หน้าตา Western Bacon Cheeseburger ดูดีอยู่นะ เป็นเบอร์เกอร์เนื้อ ใส่เบคอน ชีส กับ Onion Rings และชุ่มไปด้วยซอสมะเขือเทศ


ขนมปังนุ๊มนุ่ม เบอร์เกอร์ย่างถ่าน (เค้าว่างั้น) กลิ่นหอมมาก ตัวเบคอนก็กรอบกำลังดีค่ะ ส่วนชีสเป็นชีสทั่วๆ ไปค่ะ ที่เห็นนี่ไม่ได้ใส่ซอสเพิ่มแต่อย่างใด มาเต็มมากอ่ะ แอบคิดว่าถ้าไม่มีซอสมะเขือ ต้องเลี่ยนมากแน่ๆ เราจัดการหมดชิ้น ด้วยความรู้สึกแน่นนิดๆ อาจจะหนักไปหน่อยสำหรับมื้อเย็น แต่ถ้าเป็นมื้อกลางวันก็สบายๆ ค่ะ อิอิ


เอามาให้ดูแค่ชุดของเรา ส่วนของเพื่อนๆ ได้ความว่า Chicken Club ข้างในเป็นอกไก่ทอด อร่อยใช้ได้ แต่ตัว BBQ Chicken เป็น อกไก่ย่างซอสบาบีคิว แห้งไปหน่อย ขนมปังก็เป็นอีกแบบนึง ออกรสหวานๆ เมนูนี้ไม่แนะนำจ้า


พิกัดร้าน: Carl's Jr.

ที่ตั้ง: 24 Avenue ซอยสุขุมวิท 24 คลองเตย กรุงเทพฯ

ค่าใช้จ่าย: 
150 - 300 บาท




วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

รีวิวร้าน 25 Degree - Pullman Silom

25 DEGREE ร้านเบอร์เกอร์สไตล์อเมริกัน เปิด 24 ชั่วโมงหน้าโรงแรมพูลแมน สีลมค่ะ 

การเดินทาง ถ้าขับรถมาจากนราธิวาส เลี้ยวซ้ายตรงไปนิดเดียวจะเจอ 
พูลแมน อยู่ด้านขวามือ ให้ไปกลับรถ หน้า โรงแรมนารายณ์ ค่ะ 

โรงแรมหาง่ายมาก แต่ทางออกจากที่จอดรถไปร้านอาหาร งงมากขอบอก 
ถ้าใครเอารถไป ต้องกดลิฟต์ตรงที่จอดรถ ไปชั้น P2 แล้วเปลี่ยนลิฟต์ไปชั้น G อีกทีค่ะ 

ภายในร้านใช้โทนสีแดง ดำ น้ำตาล ตกแต่งด้วยกรอบรูป โปสเตอร์ดาราเก่าๆ พอเดินเข้ามาแล้วรู้สึก
ถึงความเงียบๆ ไฟดิมๆ ตัดขาดจากความวุ่นวายตรงล๊อบบี้ไปเลย ...ชอบแฮะ


วันนี้ตั้งใจมาลองพรีเมียมเบอร์เกอร์ เห็นช่วงนี้ร้านเบอเกอร์บูมมากกก พนักงานแนะนำเซต ฮาโลวีน 
เป็นเบอร์เกอร์ขนมปังฟักทอง เสิร์ฟกับซุปฟักทอง เครื่องดื่นเป็น Bloody Mary โอเค...เอามาลองซักเซต



Bloody Mary เป็น vodka + น้ำมะเขือเทศ แล้วก็มีพวกเครื่องเทศนิดหน่อยค่ะ ดื่มเรียดน้ำย่อยน่าจะดี 
แต่ถ้าใครไม่ชอบน้ำมะเขือเทศ แก้วนี่ท่าจะดื่มไม่ได้กันเลยทีเดียว



มาแล้ว Halloween Set Burger น่ารักมาก เป็นรูปฟักทอง มีไซลิงค์ ซอสมะเขือเทศให้มาด้วย
เซตเราเลือกเป็น Yellowfin Tuna ค่ะ โดยรวมๆ อร่อยทุกอย่างยกเว้นตัวทูน่า 555+ แต่ก็นะ เพิ่งเคยลอง
เบอร์เกอร์ทูน่าครั้งแรก เราว่ามันแห้งเกินไปค่ะ ส่วนซุปฟักทองหอม อร่อยมาก ชอบๆ



มาดูใกล้ๆ ขนมปังและผักสดมาก ส่วนน้องทูน่าพอใส่ มัสตาด กับ ซอสมะเขือเทศลงไปก็อร่อยดีค่ะ



อีกเซตนึง คือเซตเบอร์ 1 เป็นเซอลอยด์ มิเดียม ทานกับเฟรนช์ฟรายด์ เนื้อดีค่ะ แต่ชีสกลิ่นค่อนข้าง
แรงไปนิดสำหรับเรา เราว่าเซตนี้ ถ้าสั่งเป็นเวลดัน เกรียมนิดๆ ต้องอร่อยกว่านี้แน่ๆ พลาดๆ



ราคาอาหารอยู่ที่ประมาณ 400 บาทต่อเซตค่ะ เราว่าไม่แพงนะ ถ้าเทียบกับคุณภาพ และปริมาณ

วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555

รีวิวร้าน Captain Hook สยามแสควร์

วันนี้มาตึกสยามกิตติ์ ในสยามแสควร์ ฝั่งอังรีดูนังค่ะ ตึกนี้จริงๆเน้นโรงเรียนสอนพิเศษ 
แต่ชั้นใต้ดินก็มีร้านอาหารอยู่หลายร้านเหมือนกัน ตั้งใจมาลองปิ้งย่าง ชื่อ กัปตันฮุคค่ะ 
น้องบอกว่าอร่อยเลยมาลองซะหน่อย 

กัปตันฮุคอยู่ชั้นใต้ดิน ถ้าลงบันไดเลื่อนก็เลี้ยวซ้าย ร้านอยู่ซ้ายมือ หาไม่ยากค่ะ มีเมนูอยู่หน้าร้าน
มีทั้งบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง ปิ้งย่างแบบเป็นเซต แล้วก็มีa la carte อาหารญี่ปุ่นด้วย

บรยากาศร้านเหมือนร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วๆ ไป แอบตกแต่งให้เหมือนอยู่บนเรือเล็กๆ มีหน้าต่างกลมๆ
ฟ้าๆ คงเป็นหน้าต่างเรือสินะ 

วันนี้เราสั่งเป็นบุฟเฟต์ค่ะ 399 ไม่รวมน้ำ(ถ้าจำไม่ผิด) ทานได้ ชั่วโมงครึ่ง แต่เรานั่งเกินเวลานะ (เม๊าท์หนะค่ะ)
เพราะไม่ได้ไปช่วงพีค คนไม่เยอะ พนักงานบอกว่าสามารถนั่งได้

เอาเมนูมาฝากค่ะ รายการอาหารไม่มากไม่น้อย นอกจากแซลมอน ร้านนี้มีซาบะ กับ ดอรี่ด้วย



จานแรก เป็นน้องแซลมอน สีสวย เนื้อหนากำลังดี ย่างอย่าให้สุกเกินไป อร่อยมาก จานนี้ประทับใจหละ 

ติดอย่างเดียว อาหารจานใหญ่ เรากินแซลมอนคนเดียว เลยบอกให้พนักงานเอาไปเก็บก่อนครึ่งนึง 
เพราะมันไม่หมดแน่ๆ เสียของ 



ต่อด้วยหมู มันน้อย ออกจะแข็งไปนิด


ไส้กรอก ใช้ไส้กรอกดี อร่อยใช้ได้ค่ะ (มาจานนึงอย่างที่เห็น....เยอะมั๊ยหละ)



เนื้อ เราสั่งเนื้อลาย เนื้อนุ่ม ไม่เหนียวเลย อร่อยกว่าคิงคองครั้งล่าสุดที่ไป (ความเห็นส่วนตัว)


หมูอีกซักที


ต่อมาเป็นกุ้งค่ะ เป็นกุ้งตัวเล็ก เค้าเรียกกุ้งขาวรึเปล่านะ ถ้าดูความสด โอเคเลยค่ะ 
แต่ไซส์อาจจะเล็กไปซักหน่อย
โดยรวมอาหารอร่อย วัตถุดิบสด 1เสริฟ จานค่อนข้างใหญ่ ถ้ามาคนน้อยๆ อาจจะทานได้ไม่กี่อย่างนะคะ 
บอกให้เค้าเอามาครึ่งเดียว ก็น่าจะได้ 

เรื่องบริการ ตอนเราไปคนไม่เยอะ บริการโอเคเลย รวดเร็วมาก พนักงานยิ้มแย้ม กันเองดีค่ะ

พิกัดร้าน

Captain Hookชั้นใต้ดิน อาคารสยามกิตติ์ สยามแสควร์ฝั่งอังรีดูนัง ปทุมวัน กรุงเทพฯ
โทรศัพท์: 
02-250-7485-87



รีวิวร้าน CatNip Cafe ร้านกาแฟเก๋ ในซอยนราธิวาส 8

"แคทนิป คาเฟ่" เราเพิ่งเคยมาร้านนี้ครั้งแรกด้วยความบังเอิญค่ะ เป็นคาเฟ่เล็กๆ กลางซอยนราธิวาส 8 
การตกแต่งไม่ได้หรูหรา เตะตา แต่ด้วยองค์ประกอบเล็กๆ น้อยๆ บวกความเรียบง่ายทำให้อดไม่ได้ ต้องลอง 
เดินเข้าไปชิมซะหน่อย

บริเวณหน้าร้าน สะดุดตากับน้องกระต่ายคู่ที่ยืนต้อนรับอยู่ตรงทางเดินเขียวชอุ่ม

โซนที่นั่งด้านหน้า ช่วงเย็นๆ บรรยากาศน่าจะดี แต่เรามาก็ค่ำแล้วยุงอาจจะเยอะไปนิด





ในร้านมีมุมขายของเล็กๆ มีเสื้อยืดลายพาราด๊อกซ์ด้วย คาดว่าคงมีอะไรเกี่ยวข้องกันแน่ๆ อิอิ



ได้ที่นั่งแล้วค่ะ เป็นโซฟาเล็กๆ มีกระดานหมากรุกด้วย เอามาเล่นหมากฮอสกะเพื่อนหนุกๆ



"244" ไม่ได้ใบ้หวยนะ เห็นว่าเป็นชื่อร้านเก่า แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็น Catnip แล้ว อ้อ...ต้นแคทนิปเป็นหญ้าแมวค่ะ 
คล้ายๆ สะระแหน่ เป็นต้นที่แมวชอบ ระหว่างรอเค้ก มีแมวเดินมาเล่นด้วย ด้วยแหละ แค่เอานิ้วไปแหย่ๆ มัน มันก็
โดดขึ้นมานั่งตักเลย น่ารักมากกๆๆๆ ถามทางร้านเค้าบอกว่ามีอยู่ 5 ตัวได้ ระหว่างทางเค้กก็ได้ยินเสียงเมี๊ยวๆ เป็นระยะื



สั่งคาปูชิโนร้อนมาจิบๆ ระหว่างเล่นหมากฮ้อส ( - -) กาแฟหอมรสเข้ม โฟมไม่สวยเท่าไหร่ ไม่ว่ากันค่ะ



ตามด้วย เลมอนพาย ชิ้นนี้ 80 บาทค่ะ เสียดายที่ครัสต์ด้านล่างไม่กรอบ แต่รสชาติใช้ได้ค่ะ เปรี้ยวหวานกำลังดี 
ด้านบนโรยด้วยเปลือกเลมอน กรุบๆ หอม

ดีจังที่มีร้านคาเฟ่ง่ายๆ น่ารักๆ แบบนี้แถวสาทร ทำให้มีตัวเลือกอีกหนึ่งสำหรับนั่งคุยชิลๆ ในค่ำวันศุกร์แบบนี้ 

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

ร้านอาหารเปิดใหม่ Ebisuke - เอบิซุเกะ Central world


วันนี้มาตามโปรโมชั่น เมนูเสต๊ก/จานหลักทั้งหลาย
เค้าลด 30%  ช่วง แกรนด์ โอเพนนิ่ง + บุฟเฟต์ข้าว
แกงกระหรี่ สลัดผัก ที่ตักได้เรื่อยๆ 

เป้าหมายวันนี้ 4 Cheese Humberg Steak
ราคาโหดอยู 419 บาท แต่ลด 30% เชียวนะ 
(เป็นเหยื่อทางการตลาดตลอด - -)

พิกัดร้าน: ชั้น 7 Central World หาไม่ยากค่ะ โซนที่
คนน้อยๆ 55+










งานนี้ไปกับเพื่อนอีก 2คน ก็จัดแจงสั่งหาอาหารเรียบร้อย ตักสลัดมาเรียกน้ำย่อยกันก่อน น้ำสลัดงา
กับน้ำใส อร่อยค่ะ แต่มีอันนึงไม่ได้ลอง รู้สึกจะทำจากผลไม้อะไรซักอย่าง

อันนี้สลัดน้ำใสแบบญี่ปุ่น ผักเขียว สด ใช้ได้เลยค่ะ



จานแรกมาแล้วว เสต๊กหมู กะทะร้อน ชิ้นเล็กกว่าที่คิด แต่ขอบอกว่า หมูนุ่ม และฉ่ำมาก หอมเนยเบาๆ



จานนี้ของเพื่อนค่ะ เสต๊กปลาแซลมอน อร่อยอีกเหมือนกัน




มาถึงตัวเอกของงาน แฮมเบิร์ก ไส้ชีส มาแบบร้อนฉ่า หอมฉุย กรี๊ดมากกกกก ><



ดูข้างในกันหน่อย ผ่าตรงกลาง ชีสไหลเยิ้มมม ขอบอกว่า ปลื้มจานนี้มาก เนื้อแฮมเบิร์กชุ่ม หอมเนย กับ ชีส ฟิน.....>< แต่ทานคนเดียวอาจจะเลี่ยนเกินไป อันนี้เราแบ่งกับเพื่อนคนละครึ่งนะคะ กับเสต๊กหมูอีกครึ่งนึง 55+

เอารูปไลน์สลัดมาฝากเพื่อประกอบการตัดสินใจด้วยจ้า อ่อ อีกอย่างที่ชอบคือ ที่ไลน์สลัดมีสลัดมันฝรั่งด้วยค่ะ ค่าเสียหายมื้อนี้ หลังลดแล้ว ตกคนละประมาณ 350 บาทจ้า ถ้าไม่ลดราคาคงสาหัสอยู่ 

รีวิวร้าน Ramen Suteiji ราเม็งเปิดใหม่ในสยามแสควร์

หม่าม๊าเกิดอยากกินราเม็น เลยยกโขยงมาลองร้านเปิดใหม่ที่สยาม ใกล้บ้านดีค่ะ ร้านนี้ 
แว่วว่าเป็นราเม็นรสต้นตำรับจากเมืองฟูกูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในสยามสแควร์ 
ซอย 6 ค่ะ แถวๆ โนโวเทล ร้านอยู่ชั้น 2 แต่หาไม่ยากเลยค่ะ ป้ายเค้าค่อนข้างใหญ่อยู่ 

เดินขึ้นมาด้านบน กว้างกว่าที่คิดแฮะ ได้บรรยากาศญี่ปุ่นดั้งเดิม ทางร้านบอกว่าตั้งใจตกแต่ง
ให้เหมือนโรงละครญี่ปุ่น มีเวทีซึ่งก็คือครัวแบบเปิดที่โชว์ให้เห็นขึ้นตอนการปรุงราเม็น 
มีฉากหลังเป็นต้นสนญี่ปุ่น และเมนูอาหารต่างๆ แทนองค์ประกอบต่างๆ เพื่อให้โรงละครสมบูรณ์ 

ปล.  พี่ชายบอกว่าชอบเสื้อยืดพนักงาน 555+




มาถึงบ่ายกว่าๆ คนไม่เยอะเท่าไหร่ค่ะ ได้นั่งโต๊ะเบอร์ 1 




มาดูของกินกันนน อันนี้ sutiji Ramen Original (170B) ที่นี่เึค้ามีเส้นให้เลือก 3 แบบค่ะ 
แบบหนึบ แบบปานกลาง แบบนุ่ม จริงๆ เป็นเส้นเดียวกันหมด แต่แตกต่างตรงระยะเวลา
ในการลวกค่ะ ชามนี้เป็นเส้นหนึบ เราแอบชิมไปเล็กน้อย ตัวเส้นหนึบๆ น่าจะใช้เวลาลวก
น้อยกว่าปกติละมั๊ง โดยส่วนตัวชอบให้มันนิ่มกว่านี้หน่อยนึง ส่วนตัวซุป กลมกล่อมมากค่ะ 
เห็นพนักงานบอกว่าเค้าเคี่ยวกันข้ามวัน ทั้งนี้ทั้งนั้นราเม็นญี่ปุ่นซุปมันจะค่อนข้างเค็มนะคะ
บางคนอาจจะไม่ชอบเท่าไหร่





ชามนี้ Suteiji Special เหมือนชามแรก แต่เพิ่มหมู ไข่มะตูม กับสาหร่าย ไข่เป็นไข่ต้ม 
ตามแบบฉบับของร้านราเม็นต้นตำรับจากฟูกูโอกะ ซึ่งต่างจากไข่ต้มในตำนานของยามาโกย่า
ที่่ต้มกับเครื่องเทศนะคะ (เราชอบไข่ยามาโกย่ามากกว่านิดนึง) 





ชามนี้ของเราเอง Negi Ramen ราเม็นหน้าต้นหอมญี่ปุ่น (190บ) เส้นแบบปานกลาง เราว่า
ปานกลางเนี่ยกำลังดีเลย ไม่แข็งเกินไป ส่วนต้นหอมก็เข้ากันดีกับซุปกระดูกหมู 
แล้วก็ไม่รู้ว่าคิดไปเอง หรือพ่อครัวมือไม่เที่ยง เราว่าชามเราน้ำซุปเค็มน้อยกว่าชามอื่น 
เลยอร่อยกว่าชามอื่นนิดหน่อย 555








เมนูนี้ของคุณน้อง ราเม็นกะทะร้อน แปลกดีค่ะ จานนี้เสิร์ฟพร้อมน้ำซุป พนักงานเค้าจะตักซุป
ราดลงไป 6 ช้อน ราดไปนับไป (เค้านับเป็นภาษาญี่ปุ่นอ่ะค่ะ ถามพนักงานถึงรู้ว่าเค้านับ1-6) 
ก็คงเป็นกิมมิคของทางร้าน อิอิ หนุกดี ส่วนรสชาติ แอบชอบแบบน้ำมากกว่า ก็ราเม็นมันก็ต้อง
ซดกับซุปอร่อยๆ นี่นา 




อันนี้สั่งมาแบ่งกัน เกี๊ยวซ่า น่าจะ 90 บ อร่อยอ่ะ ชอบมากกกถ้ามีกล่ำปลีสดด้วยจะเฟอร์เฟคสุดๆ 




ค่าเสียหายมื้อนี้ ตกคนละ 200 นิดๆค่ะ พนักงานบริการดีมาก ยิ้มตลอดด คราวหน้าจะไปลองเส้นแบบนุ่มดูดีกว่า
เมนูแนะนำ:  Negi Ramen
วันที่ไปกิน:   2012-08-11
ค่าใช้จ่าย:   โดยประมาณTHB250(มื้อเย็น)

วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555

รีวิวร้านอาหาร Rain Tree ได้เวลาบุฟเฟ่ต์ !!!!


บุฟเฟ่ต์ Rain Tree @ Plaza Athenee Bangkok ถนนวิทยุ


บรรยากาศ ถือเป็นบุฟเฟ่ต์ โรงแรมที่บรรยากาศค่อนข้างจะกันเอง เสียงดังได้ประมาณนึง 
ไลน์อาหารไม่ได้ยาวอลังการ แต่ของครบ หลากหลายใช้ได้ค่ะ


มาดูไลน์อาหารกันซักเล็กน้อย ถ่ายมาพอให้เห็นบรรยากาศนะคะ 







อย่างแรกที่ลอง หอยนางรม กับ ปูอลาสก้า ความสดใช้ได้ค่ะ แต่ไม่ได้สดแบบกรี๊ดนะคะ 

ต่อจาก หอย กะ ปู ขอไปลองปลาซะหน่อย ซาซิมิ สีสวยมากค่ะ ไลน์ไม่กว้าง แต่มีพนักงาน
ดูแลตลอดค่ะ อันนี้เค้าเพิ่งมาเติม 

แซลมอนสดและมันดีค่ะ

ต่อด้วย Cold cut เน้น พามาแฮมเพราะชอบ อิอิ อร่อยค่ะ เอาเมลอนมาตัดเค็มเพลินมากอ่ะจานนี้
Great!

ระหว่างรอจานร้อน เรามาชิมๆ อาหารเรียกน้ำย่อยเล็กน้อย สลัด กับ ยำส้มโอ ยำส้มโออร่อยค่ะ 
เปรี้ยวๆ แก้เลี่ยน ก่อนทานเนื้อ

มาแระ จานร้อนของเรา จิงๆ บางอย่างน้องที่ไปด้วยกันเป็นคนสั่ง เราอาศํยชิมๆ เพราะต้องเผื่อท้อง
ไปทานอย่างอื่นต่อ 

ที่สั่งมามี แกะ ปลาแซลมอน กั้ง แล้วก็เนื้อค่ะ 
แกะ กับปลา อร่อยค่ะ แต่เราว่า เนื้อเหนียวไปหน่อย มาชิ้นใหญ่มากกก คนเน้นเสต๊กน่าจะชอบค่ะ 
ส่วนกั้ง เราสั่งมา 2 ตัว เราว่ามันไม่ค่อยสดอ่ะค่ะ ไม่ค่อยประทับใจ
มาต่อที่พาสต้า จิงๆ จานนี้ไม่ได้สั่ง ด้วยความที่มากันเยอะ ตอนแรกหาเจ้าของไม่เจอ (แปลว่า...
ตอนหลังหาเจอ แต่สายไปซะแร้ว) เราเลยเอามาจัดการ...อร่อยค่ะ กลมกล่อม เส้นก็ลวกได้กำลังดี

จบของคาวมาต่อของหวานกัน จิงๆ เราไม่ค่อยถนัดของหวานเท่าไหร่ แต่สีมันสวยเกินห้ามใจ 
ก็เอามาลองอย่างละนิด อย่างละหน่อย 



อ่อมีฟองดูชอคโกแล๊ตด้วยค่ะ ดิปกันเฮฮา 

โดยรวมโอเคนะคะ แต่ติดเรื่องบริการเล็กน้อย เราว่า พนักงานเค้าดูแลไม่ค่อยทั่วถึงเท่าไหร่ 
ไม่เสิร์ฟน้ำ ไม่เก็บจาน (วันที่เราไปพนักงานค่อนข้างน้อยอ่ะค่ะ ไม่แน่ใจเพราะใกล้สงกรานต์ด้วยรึเปล่า)

รายละเอียดเรื่องราคา และเวลาการให้บริการ อาจจะต้องโทรไปถามเพื่อความชัวร์นะคะ เพราะมื้อนี้เจ้านายเลี้ยงอ่ะค่ะ 

Rain Tree Cafe:  02-650-8800 Ext. 4346